หลักการตั้งค่าอุปกรณ์ Wi-Fi
1. Access Point
a.
ตั้งชื่อ SSID
b.
ตั้งรหัส Security
i.
หากมีอุปกรณ์ลูกข่ายที่มีอายุเกิน 5 ปีใช้งานร่วมด้วย
ให้ตั้งเป็น WEP
ii.
หากมีแต่อุปกรณ์รุ่นใหม่ ให้ตั้งเป็น WPA2-PSK
/ Personal / Pre-shared key
c.
เปลี่ยนค่า IP address ไม่ให้ซ้ำกับอุปกรณ์เดิมในระบบ
2. Client Bridge
หลักการทำงานจะเหมือนกับ Wireless adapter ที่จะรับสัญญาณ Wi-Fi มาแปลงออกทางสาย LAN UTP โดยไม่กระจายต่อ
หลักการทำงานจะเหมือนกับ Wireless adapter ที่จะรับสัญญาณ Wi-Fi มาแปลงออกทางสาย LAN UTP โดยไม่กระจายต่อ
a.
ในหัวข้อ Wireless จะมีให้ทำการ Site
survey เพื่อค้นหาสัญญาณที่เราต้องการเชื่อมต่อ เมื่อพบ AP ที่ต้องการแล้วให้เลือกเพื่อทำการเชื่อมต่อ
b.
หาก AP มีการเข้ารหัส ให้ใส่รหัสให้ตรงกันก่อน
หากใส่ไม่ตรง อุปกรณ์อาจจะฟ้องว่า ไม่สามารถเชื่อมต่อได้
c.
เปลี่ยนค่า IP address ไม่ให้ซ้ำกับอุปกรณ์เดิมในระบบ
3. Client Router
หลักการทำงานจะคล้ายกับ Client Bridge แต่ในฟังก์ชั่นนี้จะใช้สำหรับเชื่อมต่อกับ Wireless ISP เช่น True, TOT, CAT เป็นต้น
หลักการทำงานจะคล้ายกับ Client Bridge แต่ในฟังก์ชั่นนี้จะใช้สำหรับเชื่อมต่อกับ Wireless ISP เช่น True, TOT, CAT เป็นต้น
a.
ในหัวข้อ Wireless จะมีให้ทำการ Site
survey เพื่อค้นหาสัญญาณที่เราต้องการเชื่อมต่อ เมื่อพบ AP ที่ต้องการแล้วให้เลือกเพื่อทำการเชื่อมต่อ
b.
ในหัวข้อ WAN ให้เลือก connection
type เป็น DHCP หรือ Dynamic IP
c.
ตรวจสอบ Status ว่าได้รับ IP
จาก
Wireless ISP หรือไม่ ถ้าได้รับแล้ว ลองทำการเข้าใช้งานอินเตอร์เน็ท
4. WDS AP
หลักการทำงานจะเหมือนกับ Repeater แต่จะมีความเสถียรมากกว่า และสามารถใช้ได้กับระบบเครือข่ายทุกแบบ แต่จุดอ่อนคือ ต้องใช้ร่วมกันกับอุปกรณ์ที่ใช้ภาษา Firmware เดียวกัน หรือง่ายๆ คือ ใช้กับอุปกรณ์รุ่น / ยี่ห้อเดียวกัน และควรใช้ในกรณีที่ต้องการติดตั้ง AP ในตำแหน่งที่ไม่สามารถเดินระบบสายได้
หลักการทำงานจะเหมือนกับ Repeater แต่จะมีความเสถียรมากกว่า และสามารถใช้ได้กับระบบเครือข่ายทุกแบบ แต่จุดอ่อนคือ ต้องใช้ร่วมกันกับอุปกรณ์ที่ใช้ภาษา Firmware เดียวกัน หรือง่ายๆ คือ ใช้กับอุปกรณ์รุ่น / ยี่ห้อเดียวกัน และควรใช้ในกรณีที่ต้องการติดตั้ง AP ในตำแหน่งที่ไม่สามารถเดินระบบสายได้
a.
ในหัวข้อ WDS link ให้ใส่ค่า Wireless
MAC address ของอุปกรณ์ฝั่งตรงข้ามที่จะมาทำ WDS ร่วมกัน
b.
ในหัวข้อ Wireless ให้ตั้งค่าช่องสัญญาณเดียวกัน
c.
เปลี่ยนค่า IP address ไม่ให้ซ้ำกับอุปกรณ์เดิมในระบบ
5. WDS Bridge
หลักการทำงานและการตั้งค่าจะเหมือนกับ WDS AP ทุกขั้นตอน แต่ WDS Bridge จะไม่กระจายสัญญาณออกมา
หลักการทำงานและการตั้งค่าจะเหมือนกับ WDS AP ทุกขั้นตอน แต่ WDS Bridge จะไม่กระจายสัญญาณออกมา
6. AP router
ใช้ต่อพ่วงกับ Modem Bridge หรือ Router ที่มีอยู่ เพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ทได้ทันที (หากเป็น Modem Bridge ให้ใส่ User/Password ที่ใช้ต่ออินเตอร์เน็ทเข้าไปในหัวข้อ WAN > PPPoE ของ AP Router)
ส่วนการตั้งค่าอื่นๆ จะเหมือนกับ Access Point (แต่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน IP)
ใช้ต่อพ่วงกับ Modem Bridge หรือ Router ที่มีอยู่ เพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ทได้ทันที (หากเป็น Modem Bridge ให้ใส่ User/Password ที่ใช้ต่ออินเตอร์เน็ทเข้าไปในหัวข้อ WAN > PPPoE ของ AP Router)
ส่วนการตั้งค่าอื่นๆ จะเหมือนกับ Access Point (แต่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน IP)
7. Repeater
หลักการทำงานและการตั้งค่าอุปกรณ์จะเหมือนกับ Client Bridge แต่ Repeater จะสามารถกระจายสัญญาณออกมาได้ด้วย และ Universal Repeater จะสามารถตั้งชื่อให้ต่างจาก AP ที่เป็นตัวต้นทางได้ต่างหาก
หลักการทำงานและการตั้งค่าอุปกรณ์จะเหมือนกับ Client Bridge แต่ Repeater จะสามารถกระจายสัญญาณออกมาได้ด้วย และ Universal Repeater จะสามารถตั้งชื่อให้ต่างจาก AP ที่เป็นตัวต้นทางได้ต่างหาก
ข้อแตกต่างของ WDS และ Client Bridge
ฟังก์ชั่น
|
WDS
|
Client Bridge
|
จุดแข็ง
|
มีความเสถียร
สามารถส่งผ่านข้อมูลได้ทุกประเภท
|
ตั้งค่าง่าย
ใช้กับอุปกรณ์รุ่น
/ ยี่ห้อใดก็ได้
|
จุดอ่อน
|
ต้องใช้กับรุ่น
/ ยี่ห้อเดียวกัน
|
เนื่องจากเป็น
Client ซึ่งตัวอุปกรณ์จะส่งค่า
MAC
address ของมันเองตอบโต้กับ
Router หรือระบบกลาง
ซึ่งระบบจะไม่เข้าใจหรือรู้จักอุปกรณ์ที่ต่ออยู่หลัง Client Bridge ทำให้ไม่สามารถใช้งานกับบางระบบได้
|
No comments:
Post a Comment